10 วิธีคิด ชีวิตประสบความสำเร็จ ด้วยทัศนคติเชิงบวก
อาจมีหลายครั้งที่เรารู้สึกแย่ จมอยู่กับความทุกข์ โดยไม่คิดหาวิธีการจัดการกับมัน นำไปสู่ความเคยชิน จนเกิดความคิดที่ว่า ‘เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว’ ซึ่งในท้ายที่สุดอาจนำไปสู่สาเหตุของการเป็นโรคเครียดหรือโรคซึมเศร้า มองโลกในแง่ร้าย บั่นทอนทั้งชีวิตและจิตใจ จนอาจส่งผลกระทบต่อชีวิต การเรียน และหน้าที่การงาน และการจมอยู่อย่างนั้น เป็นสาเหตุให้สูญเสียโอกาสในการพบเจอสิ่งใหม่ๆ หรือการพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
"คนที่ประสบความสำเร็จ มักเป็นคนที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง"
คำกล่าวนี้เป็นจริงเสมอ
หากคุณจมอยู่กับความทุกข์ และมีทัศนคติในเชิงลบ คุณจะไม่อาจพัฒนาตัวเองไปได้ ลองคุยกับตัวเอง สำรวจความคิด ว่าถึงเวลาหรือยังที่คุณควรเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ พร้อมรับความสุข และพัฒนาตัวเองด้วยทัศนคติเชิงบวก ที่จะช่วยนำคุณไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้
วันนี้ เราลองมาดู 10 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเอง และสามารถปรับทัศนคติของคุณจากคนที่หม่นหมอง ให้กลายมาเป็นคนที่สดใส มองโลกในแง่ดี และกว้างมากขึ้น พร้อมรับชีวิตที่ดีและความสำเร็จที่คุณมุ่งหวังไว้ ด้วยทัศนคติเชิงบวกกันค่ะ
1. หมั่นคุยกับตัวเอง พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความมั่นใจ ถามตัวเองว่า ในแต่ละวันรู้สึกอย่างไร พิจารณาตัวเองอยู่เสมอว่ามีด้านลบเรื่องอะไร และทำการเปลี่ยนมุมมองความคิดลบเหล่านั้นใหม่ บอกตัวเองให้เชื่อมั่นว่า พรุ่งนี้ต้องดีกว่าเดิม อาจฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจกในทุกๆ เช้าว่า วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่ง ให้กำลังใจตัวเอง จนเราเชื่อมั่นว่าเป็นอย่างนั้นจริง ซึ่งจะก่อให้เกิดความคิดดีๆ ในแง่บวกโดยอัตโนมัติ ทำให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นสุข
2. ฝึกให้ตัวเองเป็นคนยิ้มง่าย การเคร่งเครียดหรือจริงจังกับอะไรมากเกินไป อาจส่งผลให้เราเกิดความรู้สึกมึนตึงกับหลายเรื่อง ความเครียดอาจก่อให้เกิดทัศนคติเชิงลบ ดังนั้น ถึงเวลาที่เราต้องปลดปล่อยมันออกมา สละเวลาในแต่ละวันเพื่อสิ่งบันเทิงเล็กๆ น้อยๆ เช่น อ่านหนังสือการ์ตูน ดูหนัง ฟังเพลง วาดรูป ปลูกต้นไม้ ฯลฯ ทำในสิ่งที่รักบ้าง ยิ้มกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้ทำ ความสุขที่ได้รับจะมากขึ้น และรอยยิ้มของคุณจะกว้างขึ้นเมื่อมีเรื่องดีๆ แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม จงอย่าเป็นคนประหยัดรอยยิ้ม เพราะการยิ้มเป็นพื้นฐานที่จะทำให้คุณเกิดความสุขในชีวิตได้ง่ายๆ นั่นเอง
3. อย่าวิตกกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ความกลัวและความกังกลมักเป็นอุปสรรคให้เรามองโลกในแง่ดีไม่ได้ จงอย่าวิตกกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้ละเลย หรือไม่นึกถึงอนาคต แล้วใช้ชีวิตโดยไม่มีแบบแผน แต่คุณควรโฟกัสอยู่กับปัจจุบันพร้อมกับมองภาพรวมว่า คุณคือใคร ต้องการอะไร และกำลังทำอะไร เพื่อวางแผนและพัฒนาชีวิตอย่างเป็นระบบ พยายามทำความเข้าใจชีวิต แล้วเส้นทางของคุณจะกระจ่างชัดมากขึ้น
4. รู้จักการยืดหยุ่นและปล่อยวาง ฝึกตัวเองให้เป็นคนยืดหยุ่นบ้าง เมื่อเรายึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป โดยเฉพาะความทุกข์หรือปัญหา จะทำให้เราเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ลองเปลี่ยนความคิดที่ว่า ทุกอย่างต้องเป๊ะ ต้องสมบูรณ์แบบ มาเป็นคิดแบบยืดหยุ่น เมื่อเราตั้งความหวังไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ให้รู้จักการเผื่อใจไว้ด้วย พึงระลึกอยู่เสมอว่า ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน ในเมื่อโลกยังหมุนอยู่ทุกวัน เวลาเคลื่อนไปทุกนาที ความเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ
5. ฝึกตัวเองให้เป็นคนคิดรอบด้าน คิดให้เยอะ แต่ไม่ใช่คิดมาก เมื่ออยากมีความสุขพร้อมกับประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องรู้จักการคิดแบบผู้ใหญ่ ทำแบบเด็ก คือต้องมีความกระตือรือร้นที่จะทำสิ่งใหม่ๆ สร้างแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ให้กับตัวเองด้วยการลองทำสิ่งใหม่ๆ บ้าง ต้องกล้าลงมือทำแบบเด็กๆ ที่กำลังสนุกสนานกับการเล่นบางอย่าง ตื่นเต้นกับสิ่งที่ทำ แต่เมื่อลงมือทำ ต้องรู้จักการคิดแบบผู้ใหญ่ มองทุกอย่างให้รอบคอบ มองภาพรวมและแนวทางหรือสิ่งที่จะทำต่อไป คิดให้รอบด้าน ทำให้โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้น้อย
6. หยุดจับผิดคนอื่น แล้วหันมาใส่ใจตัวเอง เลิกมองคนอื่นด้วยอคติ โดยการเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน หรือศูนย์กลางของจักรวาล เพราะแต่ละคนย่อมมีมุมมองความคิดที่แตกต่างกัน เมื่อมองคนอื่นให้มองที่วิธีคิด การจัดการ และสิ่งดีๆ ชื่นชมในสิ่งที่เขาทำ แล้วหันกลับมามองที่ตัวเรา หากจะเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น ให้มองข้อดีของเขา แล้วหาข้อเสียและจุดบกพร่องของตัวเอง เพื่อพัฒนาและแก้ไข โดยอาจนำวิธีการที่ดีของคนอื่นมาเป็นแนวทางได้ โดยไม่ดูถูกตัวเองและคนอื่น เพราะคนเราทุกคนย่อมมีศักยภาพในตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรู้จักดึงมาใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลาอย่างเหมาะสม และมีศักยภาพ
7. ผูกมิตรกับคนคิดบวก ง่ายๆ เลย คือ ‘อยู่กับสังคมเช่นไร ย่อมเป็นคนเช่นนั้น’ เมื่อเราอยู่ท่ามกลางคนที่มีทัศนคติที่ดี เราจะค่อยๆ ซึมซับพลังงานด้านบวกที่มีเหล่านั้น ส่งผลให้ความคิด การกระทำ หรือคำพูดเปลี่ยนไปในทางที่ดี ความรู้สึกที่ดี จะนำมาซึ่งความคิดดีๆ ส่งผลดีกับชีวิตของเราเอง แน่นอนว่า คนคิดบวกย่อมมีพลังงานชีวิต และความกระตือรือร้นเหลือเฟือมากกว่าคนอมทุกข์ที่ขาดแรงใจในการดำรงชีวิต ดังนั้น จงสลัดความคิดแย่ๆ ออกไป ซึมซับพลังงานด้านบวก พร้อมทั้งปล่อยพลังงานด้านบวกของคุณให้คนอื่นได้สัมผัสด้วยเช่นกัน
8. ไม่หยุดพัฒนาชีวิต ด้วยการมองหาสิ่งใหม่ การพัฒนาตนเอง คือ สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ อาจเริ่มพัฒนาตัวเองง่ายๆ ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ ฟังสิ่งดีๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ ให้เกิดความรู้รอบด้าน ไม่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากไปจนไม่ยอมรับความคิดอื่นๆ ไม่มองตัวเองในแง่ลบ ให้นึกอยู่เสมอว่าเราสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ หากขาดความรู้ ประสบการณ์ ก็ต้องลองออกไปหา ออกไปมองโลกภายนอกบ้าง ค่อยๆ พัฒนาตัวเองทีละนิด แต่ทำทุกวัน เราก็จะเก่งขึ้นได้
9. เชื่อมั่นและไม่ดูถูกตัวเอง การดูถูกตัวเองบ่อยๆ คิดว่าตัวเองทำไม่ได้ทั้งที่ยังไม่ได้ทำ จะก่อให้เกิดทัศนคติเชิงลบขึ้น ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง เหมือนกับการสะกดจิตตัวเองให้ดูด้อยค่า เมื่อความคิดเหล่านี้สะท้อนออกมาทางแววตาหรือการกระทำ เราจะไม่สามารถทำให้คนอื่นยกย่องหรือชื่นชมได้ เพราะแม้แต่ตัวเรายังดูถูกตัวเอง ลองเปลี่ยนจากการดูถูกตัวเอง เป็นการหันมาให้กำลังใจตัวเอง เช่น หากเกิดข้อผิดพลาด จงบอกกับตัวเองว่า ครั้งหน้าเราต้องทำได้ ครั้งหน้าเราต้องทำสำเร็จ คือ เมื่อเรามีความมุ่งมั่น และเมื่อเชื่อมั่นในตัวเองแล้ว ท้ายที่สุดศักยภาพในตัวเองที่มีก็จะสามารถแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่
10. บันทึกสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ในแต่ละวันที่เริ่มต้นขึ้น นอกจากการให้กำลังใจตัวเองในตอนเช้า เช่น การคุยกับตัวเองหน้ากระจกแล้ว ลองบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ที่เป็นเรื่องดีๆ แม้เพียงเล็กน้อยในแต่ละวัน เช่น วันนี้ได้ทานไอศกรีมรสโปรด ได้ดูหนังที่อยากดู หรือทำงานสำเร็จทันเวลา เป็นต้น เมื่อเราบันทึกสิ่งต่างๆ ลงบนหน้ากระดาษ สมองของเราก็จะมีการจดจำสิ่งเหล่านั้น เป็นการทบทวนและจดจำสิ่งดีๆ โดยอัตโนมัติ ต่อไปเมื่อเราพบเจอเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่แค่ไหน เราก็จะสามารถค้นพบสิ่งดีๆ จากเรื่องราวเหล่านั้นได้ด้วยทัศนคติเชิงบวกที่มี
เมื่อเราสามารถทำได้แม้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งใน 10 ข้อนี้ ลองสังเกตตัวเอง ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แค่เริ่มง่ายๆ ด้วยการยิ้มให้กับตัวเอง สิ่งดีๆ เล็กน้อยก็เกิดขึ้นแล้ว จงจำไว้ว่า ‘ไม่มีใครสามารถกำหนดความคิดหรือทัศนคติของเราได้ นอกจากตัวเราเอง’ ดังนั้น จะดีจะแย่ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเรา
ลองลดเวลากับสิ่งที่ไร้ค่า ไม่มัวแต่มานั่งอมทุกข์ รู้จักค้นหาและพัฒนาตัวเอง คิดบวกง่ายๆ กับทุกช่วงเวลาของชีวิต เมื่อต้องเชิญกับปัญหา รู้จักยืดหยุ่น และปล่อยวาง มีความสุขกับสิ่งที่มีตรงหน้า เติมเต็มสิ่งที่ขาด ไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเอง เพียงเท่านี้ เราก็จะมีทัศนคติที่ดี พร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ และความสำเร็จในแบบที่คุณปรารถนาก็อาจเป็นไปได้ด้วยเช่นกัน
About Author and Contributor
