- Sep 12, 2019

Weathering with You เพราะความรักและฟ้าเชื่อมถึงกัน

Weathering with You (2019) หรือ Tenki no ko โดยผู้กำกับเลื่องชื่ออย่าง Makoto Shinkai (มาโกโตะ ชินไค) ผู้ซึ่งรังสรรค์ผลงานภาพยนตร์อนิเมะที่ตราตรึงอยู่ในใจของใครหลายคนมาแล้วหลายเรื่อง ทั้ง Your Name (2016) และ 5 Centimeters Per Second: A Chain of Short Stories About Their Distance (2007) ฯลฯ จากการนำเสนอที่สุดพิศวงที่มีเอกลักษณะเฉพาะไม่แพ้ไอเดียการทำหนังของฝั่งตะวันตกเลย ฉะนั้น เขาจึงกลับมาสานต่อความตราตรึงใจให้อยู่กับเราไปอีกยาวนานกับ Weathering with You

Weathering with You เป็นเรื่องราวของโมริชิมะ โฮดากะ เด็กหนุ่มมัธยมปลายคนหนึ่งที่หนีออกจากบ้าน มาใช้ชีวิตในมหานครโตเกียวเพียงลำพังท่ามกลางสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝนที่ตกอยู่แทบจะตลอดเวลา เขาได้เข้าทำงานเป็นเบ๊ในบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ทำให้เขาได้ติดตามและศึกษาเกี่ยวกับตำนานและความเชื่อดั่งเดิมจนทำให้เขามีโอกาสได้รู้จักกับอามาโนะ ฮินะ (สาวฟ้าใส) สาวน้อยผู้มีความสามารถในการควบคุมสภาพอากาศ และพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปตลอดกาล...

ในส่วนพล็อตเรื่องดูเข้าใจง่ายดี มีจุดเปลี่ยนอยู่สม่ำเสมอ ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป แต่เข้าถึงความรู้สึกคนดูได้ จุดเด่นของหนังว่าด้วยเรื่องของความแฟนตาซีและความพิศวรของพลังเหนือธรรมชาติของสาวน้อยฮินะที่สามารถทำหน้าที่เป็นตุ๊กตาไล่ฝนได้อย่างดีกว่าใคร ผสมกับความลึกซึ้งของความรัก คล้ายๆ รักแรกพบสไตล์วัยรุ่น มีทั้งความโรแมนติกและดราม่า

การดีไซต์มีมิติชัดลึกเหนือชั้นมาก ไม่น่าเชื่อว่า นี่คือการพัฒนาจากลักษณะการวาดการ์ตูนอนิเมะแบบสองมิติ เป็นเทคนิคที่แปลกตาดี จะเป็นสามมิติแบบการ์ตูนดิสนีย์ยุคปัจจุบันเลยก็ไม่ใช่ เรียกว่า เป็นการ์ตูนที่มีมิติมาก แต่ยังคงเอกลักษณ์สไตล์อนิเมะญี่ปุ่นไว้ได้อย่างดี จริงๆ ก็คล้ายกับ Your Name นะ แต่มีการปรับลายเส้นที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิม ทั้งแสง การสั้นไหวของน้ำ ภาพบรรยากาศวิว ฯลฯ มันทั้งมีความสมจริงและเป็นอนิเมะในเวลาเดียวกัน ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ที่เด่นชัดมากของงานด้านภาพของหนังเรื่องนี้

นี่ยังไม่รวมเรื่องมุมกล้องและการเคลื่อนไหวที่สามารถสร้างฉากที่มาพร้อมความรู้สึกและอารมณ์ที่ทั้งซาบซึบและทรงพลังในขณะเดียวกัน พร้อมเพลงประกอบที่เข้ากันดีเหลือเกิน บางครั้ง ก็เป็นการทำเรื่องเล็กๆ ดีๆ ให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ ซึ่งดีงามด้วยประการฉะนี้

เพลงประกอบเพราะมาก คิดว่า ไม่แพ้ Your Name เลย แต่ละเพลงที่ขึ้นมา ฟังแล้วขนลุก เข้ากับฉากต่างๆ ในเรื่องที่นำเสนอออกมาพร้อมกับเพลง เพราะมาจากการร่วมงานกับวงดนตรี Radwimps (แรดวิมส์) ที่เคยมีผลงานโดดเด่นมาแล้วในเรื่อง Your Name นั่นเอง และยังคงทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย

ที่สำคัญ แนวคิดชุดหนึ่งที่ดีมากๆ ในการนำเสนอของหนังเรื่องนี้ (รวมถึงเรื่องก่อนหน้านี้ของชินไคด้วย) คือการนำความรู้-การคาดการณ์วิทยาศาสตร์ (ในที่นี้ รวมถึงภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ด้วย) และสภาพอากาศที่แปรปรวนในโลกปัจจุบัน ผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมความเชื่อดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น (จากประเพณีและศาสตร์ดั้งเดิมที่คนทุกวันนี้เรียกกันว่า ความเชื่อหรือศาสนา) เป็นแบ็กกราวด์ของเรื่อง มก่อให้เกิดความเชื่อมโยงและความสอดคล้องระหว่างแนวคิดทางวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมความเชื่อดั้งเดิมที่ลงตัวสู่สายตาคนดู คือ เราไม่จำเป็นต้องถกเถียงกันว่าอะไรคือความจริงแท้ของโลก และในหนังเอง เราอาจแทบจะไม่สังเกตเห็นถึงความคร่ำครึของวัฒนธรรมที่เก่าแก่เลย จริงๆ ถือเป็นเสน่ห์ของญี่ปุ่นอีกเช่นกัน ถ้าเราเคยไปเที่ยวหรือไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั้น เราคงจะเห็นว่าคนญี่ปุ่นส่วนหนึ่งผูกพันธ์กับวัฒนธรรมท้องถิ่นอยู่ไม่น้อยเลย แต่ก็มีความทันสมัยในขณะเดียวกัน

แต่มีปัญหาอยู่เล็กน้อยตามความเห็นส่วนตัว คือ ส่วนหนึ่ง หนังให้รายละเอียดภูมิหลังของตัวละครบางตัวที่อาจไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงมากไปนิด หากแต่คิดว่า ควรจะโฟกัสที่เรื่องราวหลักของตัวเอกที่มีจุดพีคอยู่ที่พลังเหนือธรรมชาติและความรัก เพราะมันดูมีเรื่องให้เล่ามากไปนิด มีความดราม่าชีวิตของตัวละครอื่นอยู่มากไปหน่อย

แต่ส่วนตัว ก็คิดว่า ไม่ได้มีอะไรแย่ในหนังเรื่องนี้นะ โดยรวม เรื่องราวน่าสนใจมากและฉากก็สวยสะดุดตา มันให้อารมณ์และความรู้สึกที่หลากหลายด้วย สัมผัสได้ถึงความแฟนตาซีของพลังเหนือธรรมชาติที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีและลงตัว ความกล้าหาญของเด็กมัธยมตัวเล็กๆ ที่พยายามต่อสู้ชีวิตในเมืองใหญ่ มิตรภาพระหว่างผองเพื่อน-เพื่อนร่วมงานที่มีลักษณะเป็นกึ่งครอบครัว-เป็นพี่เป็นน้อง (ให้ค่าจ้างน้อย ทำงานหนัก อาศัยอยู่ด้วยกัน และคอยช่วยเหลือกันในยามจำเป็น) โดยเฉพาะความอบอุ่นในส่วนการเสียสละและความรักที่ต่างฝ่ายต่างต้องการซึ่งกันและกัน รวมถึงอารมณ์แห่งความสะพรึงของภัยพิบัติจากฟากฟ้าที่ดูสมจริงมากอยู่

ฉะนั้น ขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 8.5 คะแนน (เต็ม 10) เพราะภาพสวย ดีไซน์ดี มีเสน่ห์ ดูเป็นทั้งหนังที่สมจริงและเป็นทั้งการ์ตูนอนิเมะ มุมกล้องทำได้งดงาม เพลงสวย (เพราะ) มีความโรแมนติกและน่ารักอยู่ในตัว แนวคิดการสร้างหนังดีงามมากและมีเอกลักษณ์เฉพาะในแบบญี่ปุ่น เป็นการถ่ายทอดแนวคิดทางวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นออกมาได้อย่างแนบเนียน