top of page

Creative Path ออกแบบกราฟิกทุกประเภทสำหรับธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเพื่อการตลาดออนไลน์ กิจกรรมทางสังคม และอื่นๆ

Christopher Robin จากไปและคืนถิ่น


'จากไปและคืนถิ่น (There and back again.) นิทานฮอบบิท โดย บิลโบ แบ๊กกิ้นส์…'

สำหรับแฟนๆ The Lord of the Rings คงจะคุ้นหูคุ้นตากับข้อความนี้เป็นอย่างดี เป็นเรื่องราวการผจญภัยของฮอบบิทชื่อดังนามว่า 'บิลโบ แบ๊กกิ้นส์' แต่เนื่องในโอกาสที่บทความนี้จะตกเป็นของหนุ่มชื่อดังอีกคนที่มีชื่อว่า 'คริสโตเฟอร์ โรบิน' ผมจึงขอแก้ไขข้อความข้างต้นนั้นสักเล็กน้อย

 

'คริสโตเฟอร์ โรบิน จากไปและคืนถิ่น'

 

ในบรรดาภาพยนตร์แอนนิเมชั่น (การ์ตูน) ของค่ายดิสนีย์ 'Winnie the Pooh' หรือ 'หมีพูห์' หมีตัวสีเหลืองใส่เสื้อสีแดง ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของดิสนีย์ เป็นที่รู้จักบนโลกมายาวนานกว่า 90 ปี รังสรรค์เรื่องราวในครั้งแรกโดย 'Alan Alexander Milne' เราสามารถพบเห็นได้ทั้งจากหนังสือวรรณกรรม นิทาน ภาพยนตร์ ซีรี่ส์ ตุ๊กตา ของเล่น เกม เป็นต้น

แต่เรื่องที่จะไม่ถูกกล่าวถึงเลยไม่ได้ นั่นคือ เด็กชายที่ชื่อ 'Christopher Robin Milne' หรือ 'คริสโตเฟอร์ โรบิน มิลน์' บุตรชายของ Alan Alexander Milne ผู้แต่งแต้มเรื่องราว Winnie the Pooh จากการอยู่กับคริสโตเฟอร์ โรบิน หรือพูดอีกอย่างว่า Winnie the Pooh ถูกสร้างขึ้นและดัดแปลงมาจากเรื่องราวของคริสโตเฟอร์ โรบินกับของเล่นของเขาในวัยเด็ก ทำให้คริสโตเฟอร์ โรบิน กลายเป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่สำคัญใน Winnie the Pooh โดยที่คริสโตเฟอร์ โรบิน ใน Winnie the Pooh เป็นเหมือนทั้งเพื่อนเล่น เพื่อนสนิท ผู้ชี้นำ ผู้ปกป้อง ตลอดจนฮีโร่ของเหล่าผองเพื่อนใน 'ป่าร้อยเอเคอร์' (ฉากใน Winnie the Pooh)

และในวาระครบรอบ 90 ปี ภาพยนตร์ในชื่อ 'Christopher Robin' เข้าฉายในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2018 จากฝีมือผู้กำกับมือดีอย่าง Marc Forster และได้นักแสดงนำสัญชาติ UK อย่าง Ewan McGregor และ Hayley Atwell มารับบทเป็นคริสโตเฟอร์ โรบินในวัยผู้ใหญ่และภรรยาของเขา

ต้องบอกก่อนเลยว่า Christopher Robin เรื่องนี้ ที่ผมไปรับชมมานั้น มันดีเกินกว่าที่คาดเอาไว้มาก ทั้งในแง่ของเนื้อหา การนำเสนอในช่วงแรกที่มีเสน่ห์และชีวิตจริงของคนทำงาน งานศิลป์ด้านภาพและ CG การสร้างบรรยากาศของอังกฤษในยุคอุตสาหกรรมกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 และฉากป่าที่นำเรากลับไปสู่ป่าร้อยเอเคอร์อีกครั้งในวันที่เราโตๆ กันแล้ว และโดยเฉพาะการผสมผสานตัวการ์ตูนกับตุ๊กตาของจริงในการเดินเรื่อง ซึ่งทำให้ดูสมจริงมากขึ้นด้วย

เริ่มต้นด้วยเรื่องราวของเด็กชายคริสโตเฟอร์ โรบิน ที่จากลาหมีพูห์และผองเพื่อนในป่าร้อยเอเคอร์กลับสู่ชีวิตจริง เข้าโรงเรียน เติบโต เรียนจบมหาวิทยาลัย แต่งงาน ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 กลับมาทำงานหนักเพื่ออนาคต ใช้ชีวิตในครอบครัว และเขากลายเป็นผู้ใหญ่ชาวลอนดอนที่บ้างานในขณะที่มีภรรยาและลูกแล้ว เขาหลงลืมความสุขที่แท้จริงของตัวเอง และละเลยความสำคัญของภรรยาและลูกสาว ทั้งยังลืมเพื่อนเก่าในป่าร้อยเอเคอร์ไปอย่างสนิทใจ

ภาพยนตร์ค่อยๆ เน้นย้ำถึงการไล่ตามความฝัน การทำงานหาเงินอย่างไม่หยุดยั้ง และการให้ความสำคัญกับครอบครัวอย่างลึกซึ้งแบบตรงไปตรงมาและอ้อมๆ ปัญหาในครอบครัวของคริสโตเฟอร์ โรบินก่อตัวขึ้นจากการทำงานเพื่ออนาคตที่วาดหวังของเขา ตลอดจนการปรากฏตัวบนโลกจริงของหมีพูห์ที่ทำให้เขามีปัญหามาขึ้นในการทำงาน แต่หมีพูห์ก็ได้นำพาเขาไปสู่ความรู้สึกสงบและมีความสุขแบบที่เขาเคยเป็นในวัยเด็ก ทั้งหมีพูห์ยังทำให้เข้าได้รับรู้ถึงความสำคัญและจุดหมายที่แท้จริงในชีวิตและครอบครัวของเขาด้วย

ภาพยนตร์นำเสนอในเรื่องความขัดแย้งระหว่างการทำงานเพื่ออนาคตกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันขณะให้มีความสุขในแบบเป็นตัวของตัวเอง

 

"ความฝันมันไม่ได้มาฟรีๆ หรอก เราต้องทำเพื่อให้ได้มัน การไม่ทำอะไรเลย ก็จะไม่ได้อะไรเลย" vs. "การไม่ทำอะไรมักจะนำไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดบางอย่างเสมอ"

 

เช่น ในตอนที่คริสโตเฟอร์ โรบินและภรรยาทะเลาะกัน ภรรยาของเขาพูดประชดประชัดตั้งคำถามในลักษณะว่า 'ทำงานเพื่อให้อนาคตดีขึ้น มันจริงหรอ' ทั้งที่จริงแล้ว เป็นไปได้เสมอที่มนุษย์อย่างเราๆ ยิ่งทำงานมากขึ้น เราจะยิ่งต้องการมากขึ้นและมากขึ้น จนอาจติดเป็นนิสัย ซึ่งท้ายที่สุด มันอาจไม่ได้ส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ในชีวิตคู่และครอบครัว ทั้งที่ "ชีวิตจริงมันกำลังเกิดขึ้นเดี๋ยวนี้และตรงหน้าคุณเองนี่แหละ" ซึ่งสิ่งสำคัญที่ภาพยนตร์พยายามจะบอก คือ 'ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน'

 

"Your life is happening right now and in front of you."

 

การเปลี่ยนไปของคริสโตเฟอร์ โรบินที่อาจจะดูเศร้าสำหรับแฟน Winnie the Pooh แต่ก็น่าประทับใจ จริงอยู่ว่า คริสโตเฟอร์ โรบินในภาพยนตร์เรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งมันก็แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเด็กชายในตอนนั้นเมื่อโตขึ้น จะเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ก็ได้อธิบายเหตุผลที่มาที่ไปให้เราเข้าใจอย่างชัดเจน ทำให้คนดูไม่รู้สึกขัดใจเลย แถมยังเข้าใจเขามากขึ้นด้วยซ้ำ จึงเรียกได้ว่า 'เป็นความเศร้าที่น่าประทับใจ'

นอกจากนี้ ในภาพยนตร์ยังคงกลิ่นอายของเหล่าผองเพื่อนและป่าร้อยเอเคอร์ตามแบบต้นฉบับ Winnie the Pooh ไว้ได้ ทั้งยังผสมผสานกับความเป็นภาพยนตร์ Live Action อย่างลงตัวและดีเยี่ยม สำหรับผม มันให้ความรู้สึกเหมือนผมได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กดู Winnie the Pooh ทุกตอน และ Christopher Robin เรื่องนี้เป็นบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา บอกได้เลยว่า “ซึ้งจนน้ำตาแทบไหล”

Christopher Robin เต็มไปด้วยแง่คิดที่ดี ทั้งที่ต้องตีความและนำเสนอแบบตรงไปตรงมา และที่สำคัญ ภาพยนตร์เต็มไปด้วยความน่ารักใสๆ ของเหล่าผองเพื่อนแห่งป่าร้อยเอเคอร์ แม้ว่าจะดูโง่ๆ หน่อย แต่จริงใจและมีความเป็นตัวของตัวเอง

นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังได้ใส่กลิ่นอายและบรรยากาศสภาพแวดล้อมในประวัติศาสตร์และเมืองอุตสาหกรรมในอังกฤษช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของสังคม วัฒนธรรม และเทรนด์ในยุคสมัยนั้น รวมถึงชีวประวัติของคริสโตเฟอร์ โรบินเองด้วย (แม้ว่าจะถูกแต่งเติมไปมากก็ตาม)

สุดท้ายนี้ ต้องบอกว่า นอกจากจะครบรอบ 90 ปี Winnie the Pooh แล้ว ภาพยนตร์ค่อนข้างเข้าฉายถูกจังหวะเวลา โดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ที่คนส่วนใหญ่ในกลุ่มคนทำงานแบบมนุษย์ออฟฟิศ ข้าราชการ นักธุรกิจ หรือแม้แต่นักลงทุน ฯลฯ ต่างก้มหน้าก้มตาทำงานหนักเพื่อความก้าวหน้าในการงาน การเงิน หรือแม้แต่อำนาจ-ชื่อเสียง เพื่อให้ได้อนาคตที่คิดว่าจะดี แต่กลับละเลยสิ่งเล็กสิ่งน้อยในชีวิต ความสุข ความต้องการที่แท้จริง และโดยเฉพาะครอบครัวของตัวเอง

และในฐานะผู้เขียน ผมอยากจะเชื่อว่า ใครที่ได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจจะนึกถึงเพื่อนเก่า คิดถึงครอบครัว พบกับความสุขและมุมสงบของตัวเอง และอาจจะกลับไปบาลานซ์ชีวิตระหว่างการทำงานและความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวได้ และที่สำคัญ ภาพยนตร์ให้พลังด้านบวกกับเรามากๆ เพราะ 'โลกมันจะเป็นยังไง มันอยู่ที่ตัวเราเองจะมองโลกยังไงต่างหาก'

ภาพยนตร์ Christopher Robin (ค.ศ. 2018) เข้าฉายติดอันดับ Box Office ในสัปดาห์เปิดตัวที่รายได้กว่า 24 ล้านเหรียญสหรัฐในสหรัฐอเมริกา เป็นรองเพียง Mission: Impossible - Fallout ซึ่งเข้าฉายในเวลาเดียวกัน โดย Christopher Robin ได้คะแนนจากผู้ชมบนเว็บ IMDb ถึง 7.9 คะแนน (วันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 2018)

 

About Author and Contributor

Komentáře


บทความแนะนำ
ประเภทบทความ
บทความล่าสุด
Follow Us
  • Facebook
  • Instagram
Services

สำหรับสินค้า แบรนด์ โฆษณาออนไลน์ หนัง/ภาพยนตร์ ธุรกิจ บริการ และอื่นๆ ให้โดนใจลูกค้า อย่างมืออาชีพและแสดงถึงภาพลักษณ์ ความน่าสนใจของชิ้นงาน

สำหรับธุรกิจ สินค้า แบรนด์ และอื่นๆ ให้โดนใจลูกค้า อย่างมืออาชีพและแสดงถึงภาพลักษณ์ ความน่าสนใจของชิ้นงาน

สำหรับธุรกิจ-องค์กร แบรนด์ สินค้า บริการ และอื่นๆ ให้เข้าใจง่าย มีสไตล์ สร้างความน่าเชื่อถือ อย่างมืออาชีพและแสดงถึงภาพลักษณ์ ความน่าสนใจของชิ้นงาน

สำหรับสมัครงาน ฝึกงาน และเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย หรือวัยทำงาน ให้โดนใจคณะกรรมการ อย่างมืออาชีพและแสดงถึงภาพลักษณ์ ความน่าสนใจของชิ้นงาน

การ์ตูนช่อง คาแร๊กเตอร์ และการ์ตูนประกอบ สำหรับใช้เป็นภาพประกอบบทความ หนังสือ โฆษณาออนไลน์ ธุรกิจและบริการอื่นๆ ตามความต้องการ

แปลเอกสารภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย แปลตั้งแต่เอกสารทั่วไปจนถึงเอกสารทางเทคนิคที่มีความซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นบทความ เรซูเม่สมัครงาน วิจัย รายงานการประชุม เอกสารราชการ ฯลฯ

bottom of page